เงาสีขาว ภาพเหมือนในวัยระห่ำของศิลปิน by แดนอรัญ แสงทอง


เงาสีขาว ภาพเหมือนในวัยระห่ำของศิลปิน
Title : เงาสีขาว ภาพเหมือนในวัยระห่ำของศิลปิน
Author :
Rating :
ISBN : -
ISBN-10 : 9786167474717
Language : Thai
Format Type : Paperback
Number of Pages : 744
Publication : First published December 1, 1993

คือเรื่องราวอันสากระคายกร้าวกระด้างซึ่งส่งเสียงกังงานแห่งหง่างออกมาราวเสียงระฆังที่ดังคลอไปกับขบวนแห่งศพ และศพที่ว่านั่นก็มิใช่อะไรอื่นหากคือศพของสังคมไทยยุคโพส์ต์โมเดิร์นนั่นเอง (เฟรดเดอริค มอเรล : นักวิจาร์วรรณกรรมชาวฝรั่งเศส)

ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแรกที่ "เงาสีขาว" ได้รับการแปลออกมา นวนิยายเรื่องนี้น่าสะพรึ่งกลัวดุจอสุรกาย อุดมด้วยสุ้มเสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวอันสุดระงับ สุกสกาวเจิดจรัสและทรงอานุภาพร้ายกาจเยี่ยงอสรพิษ (รายงานข่าวของสำนักข่าวเอเอพี)

นวนิยายที่หนาเกือบห้าร้อยหน้าของ "คนระห่ำ" เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นความมหึมาโดยแท้จริง แน่นขนัดด้วยภาษาที่ร่าเริงแจ่มใสของหนุ่มสาวผู้กำลังระเริงชีวิต อุดมสมบูรณ์ไปด้วยภาษาอันมืดมนเข้มคลั่งอย่างน่าสยดสยอง มันคือบทเพลงแห่งความตายอันเต็มไปด้วยความไหวหวั่นระทึกขวัญ "ภาพเหมือนในวัยระห่ำของศิลปิน" เป็นชื่อเรื่องรองที่ชัดเจนดีมาก (ซีซิล มอสโกวิทซ์ : นักวิจารณ์วรรณกรรมชาวฝรั่งเศส)

ในระหว่างรอๆ กันอยู่ ว่าเมื่อไหร่จะมีใครแปล "ยูลีซีส" ของเจมส์ จอยซ์ และ "รีเมมบรานซ์ ออฟ ธิงส์ พาสท์" ของมาร์แซล พรูสต์ ออกมาเสียที่นี่ ทำไมไม่อ่าน "เงาสีขาว" ของแดนอรัญ แสงทอง ไปพลางๆ ไม่แน่หรอกว่าฝรั่งมันจะเขียนได้ (ภัควดี วีระภาสพงษ์ : นักแปลวรรณกรรมชายไทย)

อ่าน "เงาสีขาว" ด้วยความรื่นเริงบันเทิงสุข ผู้เขียนแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีความสามารถทางวรรณกรรมอย่างแท้จริง... การพูดอย่างเปลือยความรู้สึกในนวนิยายเรื่องนี้ หลายต่อหลายครั้งก่อนให้เกิดความสะเทือนใจอย่างรุนแรง และหลายต่อหลายครั้งก่อให้เกิดอารมณ์ขันเขดีพิลึก มันจำแลงโฉมมาในฐานะงานวรรณกรรมก็จริง แต่แท้ที่จริง มันคือการยักเยื้องเริงระบำอันชวนให้ใจหายใจคว่ำระหว่างความรักและความตาย (แว็งซอง บาร์เดต์ : นักวิจารณ์วรรณกรรมชาวฝรั่งเศส)


เงาสีขาว ภาพเหมือนในวัยระห่ำของศิลปิน Reviews


  • Chinakom Nakabuit

    ราวกับเขียนด้วยเลือดจากกระโหลกสัตว์นรก

  • Nuttawat Kalapat

    เป็นหนังสือที่กระหน่ำฟาดฟัน ทะลวงถึงแกนสมองจริงๆ
    .
    นี่ไม่ใช่เรื่อง ระทึกขวัญ หรือสยองขวัญ อะไรทั้งนั้น
    เพียงแค่มันเปนเรื่องชีวิตของ คนบัดซบ ที่ไปเจออสภาพบัดซบ ไปเจอคนบัดซบ ไปเจอคนดี ไปทำบัดซบกับคนดี เท่านั้นเอง
    .
    เงาสีขาว แม่งคือหนังสือ ที่ผมชาบูเเละเชียร์สุดใจเลย เหมาะมากสำหรับสายเสพวรรณกรรม สายหนักสมอง ผมนิยามมันว่า นี่คือ เรื่องราวคล้ายคลึง เรื่อง "สูญเสียความเป็นคน" แต่เป็นเวอร์ชันไทย
    .
    ความรู้สึกทะลักล้น มากเล่มนี้ ความอึดอัด อึดอัด อัดอั้น อัดอั้น กดขี่ หยามหยัน เส็งเคร็ง สบถ โกรธแค้น เศร้าหมอง สุดจะบรรยาย
    .
    พร้อมด้วยการเล่าเรื่อง 700 กว่าหน้า ที่ไม่มีย่อหน้าแม้แต่นิดเดียว มันดูดพลังงานคุณไปจริงๆ
    .
    .
    เหมือนเดิม ผู้เขียน สอดแทรก ชื่อ นักคิดนักเขียน นักดนตรี ชื่อเพลง ชื่อวรรณกรรม ทำให้เรามีมุมมองมากขึ้น
    .
    ความเห็นย่อๆ คำเดียว "ถึงใจครับ"
    .
    * คำเตือน * คุณต้องตัดศีลธรรมในหัวออกไปให้หมดก่อน ทำหัวโล่งๆไว้
    10/10

  • Radit Panjapiyakul

    ชื่นชมในความกล้าหาญของหนังสือที่มีแนวคิดแบบสุดโต่ง หลุดกรอบแบบนี้ บางทีนี่อาจจะเป็นยาแรงชั้นดีสำหรับสังคมไทย เป็นหนังสือแบบที่เราควรจะมีเพื่อถ่วงกับเหล่าผู้มือถือสากปากถือศีลทั้งหลาย ภาษาและลีลาการเขียนของแดนอรัญนั้นสวยงามแบบแปลกประหลาดในความกักขฬะหยาบคาย ในแง่หนึ่งเรามองมันเหมือนเป็นการสำรวจความคิดแบบวัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มของผู้เขียนที่เต็มไปด้วยความบ้าบิ่น อวดดีของวัยระห่ำ (ที่เราอยากเรียกว่าระยำมากกว่า) ระหว่างที่อ่านเราคงอยากจะใช้มาตรฐานศีลธรรมของเราไปตีตราหน้าผู้เขียนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราเองก็ถูกเตรียมขึ้นมาเพื่อฉากตอนท้ายที่ทรงพลัง เพื่อจะบอกว่าทั้งหมดนั้นเป็นความมืดบอดแค่ไหนที่เราไปตัดสินอะไรโดยยกตัวเองขึ้นสูงกว่าคนอื่นได้ ดูแล้วก็เหมือนเป็นงานสะท้อนกับยุคปัจจุบันที่ผู้คนออกมาเรียกร้องเพื่อความถูกต้องกัน ด้วยการนำเสนอความคิดอีกด้านที่สุดโต่งเช่นกัน คำถามคือเราจำเป็นจะต้องไปให้สุดถึงอีกด้านด้วยรึเปล่า มันเป็นยาที่แรงไปรึเปล่า ทั้งในแง่ของเนื้อหาที่ทั้งเหยียดเพศหรือในแง่ของกรอบความคิดที่บางครั้งฟังดู edgy เหมือนเด็กมัธยมที่กำลังอวดความฉลาดของตัวเอง และความยาว 800 กว่าหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เพิ่งเล่าไปได้ครึ่งทาง น่าจะถูกตัดให้กระชับลงมาได้มากกว่านี้ในหลายจุด

  • ฮอ

    สำหรับเรา มันเป็นนิยาย Coming of Age เฉดที่ดำมืดที่สุด รสที่จัดจ้านที่สุด สำนวนเท่��ี่สุด
    และคงใช้เวลานานที่สุดในการสลัดมันออกจากหัว หรือบางทีอาจจะทำไม่ได้เลยตลอดชีวิต
    เราชอบมาก เเม้มันจะทำให้เราเศร้า
    สุขเเละหดหู่ระหว่างที่อ่าน
    สุขและหดหู่ยิ่งกว่าเมื่ออ่านจบ
    ถ้ารักใคร ให้เเนะนำเล่มนี้
    ถ้าเกลียดใคร ก็เเนะนำเล่มนี้ได้เหมือนกัน