Title | : | สัญญาณเตือนตาย เล่ม 2 |
Author | : | |
Rating | : | |
ISBN | : | - |
ISBN-10 | : | 9786161837198 |
Language | : | Thai |
Format Type | : | Paperback |
Number of Pages | : | 426 |
Publication | : | Published October 1, 2020 |
หลังจากผู้คนรู้จักนักฆ่าทางอินเทอร์เน็ตที่ชื่อ Eumenides ที่มาพร้อมหนังสือบอกกล่าวความตายที่ทำงานไม่เคยพลาด แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว Eumenides คือใคร เหตุผลที่ต้องลงทัณฑ์ผู้ที่อยู่เหนือกฎหมายคืออะไรกันแน่ ทำไมสิบแปดปีผ่านไปถึงไม่มีใครจับเขาได้เลย เขาเป็นใคร คำถามเหล่านี้ทรมานเขามาสิบแปดปีแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องไปหาคำตอบนั้น!
สัญญาณเตือนตาย เล่ม 2 Reviews
-
หลายคนบอกว่าเล่มนี้เนือย แต่เราชอบนะ
ชอบการเปิดเผยตัวตน เปิดเผยจุดอ่อนของตัวละครเก่งๆ
แล้วก็ชอบที่คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายเก่งสูสีกัน ทันกัน
เราว่าเล่มนี้อ่านสนุกกว่าเล่มแรกค่ะ -
กลับเข้าสู่วัฐจักรหนังจีนทำนอง "ใครฆ่าท่านพ่อ!" "ฆ่าจะล้างแค้นให้ท่านเอง!" อะไรแบบนี้
แถมหลังจากการปรากฎตัวของ 'หนิวหนิว' ...หมาลาบาดอร์ขนปุย ไม่ใช่เฟ้ย! หลังจากการปรากฎตัวของสาวตาบอด
เราเริ่มได้เห็นกลิ่นอายความดราม่าแบบโลกกลมที่น่าจะปรากฎในเล่มต่อ ๆ ไป
ถ้าเทียบกับเล่มแรกแล้วเล่มนี้เริ่มดร็อปลงหลังจากเข้าสู่ครึ่งหลัง แต่โดยรวมก็ยังดีกว่านิยายเล่มอื่น ๆ อยู่ดีนะ
(นอกเรื่องการรีวิว) เห็นที่คั่นหนังสือเขียนเลขปีไว้ เข้าใจว่าเลขปีน่าจะยาวต่อเนื่องถึงเล่มห้า
เลยนึกได้ว่า เฮ้ย! ตอนซื้อเล่ม 1 ทำไมไม่มีที่คั่นหนังสือในเล่ม ฮืออออ ตะเตือนไต -
เล่มสองลดคะแนนลงหน่อย มีความเรือยๆอยู่มาก ไม่ถึงขั้นเบื่อ แต่เรื่องค่อนข้างราบเรียบ หลังจากเล่มแรกโหมโรงเ���ิดตัวคนร้ายยูเมนิดิสอย่างหนักหน่วง เล่มนี้ให้พักหายใจ ย้อนไปอดีตเพื่อค้นหาตัวตนของยูเมนิดีส
“ไม่ว่าใครก็ตามที่ต่อสู่กับปีศาจเหล่านี้ ล้วนจำเป็นต้องทำความเข้าใจขั้นตอนก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นปีศาจ...”
ยิ่งค้น ยิ่งลึก ยิ่งเจอปมซับซ้อน ปูมหลังของยูเมนิดิสไม่ธรรมดา จนอดคิดไม่ได้ว่าเป็นหยวนจื้อปังที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น พรากพ่อ พรากครอบครัว มอบความโดดเดี่ยวให้ยูเมนิดิส และเมื่อถึงจุดที่ยูเมนิดิสโศกเศร้าที่สุด ก็มามอบความอบอุ่นให้ อ่านเรื่องนี้ทำให้กลายเป็นคนคิดตื้นๆไม่ได้เลย 5555
ฝ่ายตำรวจก็ยังไล่ตามยูเมนิดิสไม่ทัน แต่เข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆละ เล่มนี้ทิ้งปม ทิ้งคดีหลายคดีไว้เยอะเหลือเกิน ไปเล่มสามต่อ -
#สัญญาณเตือนตาย (เล่ม 1-5)
เป็นอาชญนิยายสุดตื่นเต้นเร้าใจ เน้นการขับเคี่ยวกันชนิดหมัดต่อหมัดระหว่างทีมสืบสวนคดีพิเศษกับอาชญากรตัวเอ้ ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุก ผลัดกันรับ แต่ละคดีถือว่ามีความซับซ้อน แถมยังแตกแขนงต่อเนื่องเกี่ยวพันกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ชอบเทคนิคการเล่าเรื่องที่มีการผูกปมแบบผูกแล้วคลาย ผูกแล้วคลายไปเรื่อย ๆ ทำให้เรื่องน่าติดตาม ไม่มีช่วงเบื่อ ถึงแม้จะเดาไม่ยาก แต่ก็มีปมใหม่มาให้เดาอยู่เรื่อย เรียกได้ว่าสามารถจับจูงผู้อ่านให้ก้าวตามเรื่องราวไปได้แบบแทบลืมหายใจกันเลยทีเดียว
ชอบการดีไซน์ตัวละครให้มีบุคลิกสอดคล้องกับปูมหลัง ชอบการกระตุ้นให้เลือกระหว่างการยืนหยัดในหลักการกับมโนธรรม ชอบความหลากหลายของตัวละคร ชอบแนวคิดเรื่องบรรทัดฐานของความยุติธรรม ชอบปลายเปิดนิด ๆ ในตอนท้ายเรื่อง และที่ชอบที่สุด คือ บางจุดที่คิดว่าเหตุผลอ่อน อ่านไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอเหตุสนับสนุนที่ต้องยอมรับ
นับได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มราคา และคุ้มค่ากับเวลาที่ใช้อ่าน...แนะนำ แนะนำ และแนะนำ สำหรับคอสืบสวนค่ะ :) -
เล่มสองเพซดร็อปลงมา แต่ส่วนตัวแอบชอบนะ ได้อ่านช้าลงหน่อย จะได้ค่อยๆทำความรู้จักตัวละครไปด้วย เล่มแรกนี่ตื่นเต้นมาก ไม่รู้จะรีบไปไหน อ่านจบละเหมือนไม่รู้จักใครเลย >_<
-
ชอบม่กกกกก มีความค่อยๆไปกับการไขคดีไม่เหมือนเล่มแรกที่มาแบบตู้ม ตู้ม และตู้มมมม ระเบิดเป็นโกโก้ครั้ช
-
อืดกว่าเล่มแรก แต่น่าติดตามกว่า เพราะเผยฝั่งผู้ร้ายให้เห็นมากขึ้น ชอบอ่านช่วงผู้ร้ายมากกว่าฝั่งตำรวจอีกแหะ ย้อนอดีตก็สนุกกว่าตอนไล่ล่า (ทำไมนะ) แต่คดีที่ถูกรื้อมีมากขึ้นๆ เอ้อ เล่นใหญ่เว่อร์
-
เล่มนี้ดรอปกว่าเล่ม 1 เหมือนที่คนอื่น ๆ ว่าไว้จริงๆ
หลัง��ากที่เฉลยตัวยูมินิดิสแล้ว ความรู้สึกเหมือนจะคลี่คลาย เหมือนขึ้นรถไฟเหาะแล้วเป็นขาลง เป็นช่วงที่ให้เราพักหายใจ
เล่มนี้จะพาเราไปรู้จักตัวตนต้นกำเนิดของยูเมนิดิส
ไม่ตื่นเต้นเท่าเล่มแรก แต่ก็ยังสนุกอยู่ -
เล่มนี้เปลี่ยนหัวหน้าทีมสืบสวนเป็นพี่หลัวแล้ว ค่อยยังชั่ว อ่านสนุกขึ้นหน่อยนึง (เล่มแรก หัวหน้าหานเฮ่าโง่มาก น่ามคานสุดๆ)
ซีนไล่ล่าชิงไหวชิงพริบกันเล่มนี้มีแค่ 2 ซีนหลักๆ นอกนั้นเป็นการสืบข่าว ไขปริศนาต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันยืดยาดหรืออะไร บางช่วงอาจง่วงๆ บ้าง แต่ก็พอไหว ค่อยๆ ขุดคุ้ยเรื่องราวเก่าก่อนขึ้นมา หลายอย่างพัวพันกันไปหมด หนุกดีอ่ะ ชอบพล็อตแบบนี้
ในเล่มนี้ พอพี่หลัวมีบทมากขึ้นแล้ว เราจะเริ่มเห็นความเทาๆ ในตัวพระเอกบ้างล่ะ เนื่องจากเป็นยูเมนิดิสรุ่นแรกด้วย ลึกๆ ย่อมมีความคิดอยากจะกำจัดความชั่วร้ายด้วยความรุนแรงอยู่บ้าง มันก็ปกติของคนแหละนะ อันนี้ดี
อ่านมาจนถึงเล่มสอง สังเกตอยู่อย่างคือ ความเทพของคุณโจวเฮ่า ในการที่ปั้นคาแรคเตอร์แต่ละตัวมาได้มีมิติมาก โดยผ่านบทบรรยายพฤติกรรม และบทพูดต่างๆ ทำให้ภาพของแต่ละตัวละครมันโคตรชัด คนที่ทำตัวน่ารำคาญก็จะโคตรน่ารำคาญ คนที่น่ากลัวก็จะโคตรน่ากลัว การที่เรื่องนี้มันส่งอารมณ์ความรู้สึกที่สมจริงออกมาถึงเราได้นี่แหละ คือฝีมือจริงๆ
สิ่งที่ไม่ค่อยชอบอย่างนึงคือ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่มีเลิฟไลน์ แต่ตัวพี่หลัวเองก็มีความคลั่งรักแบบผิดธรรมชาติอยู่อ่ะ คือว่า คนที่ใช้ชีวิตเหมือนไซบอร์คแบบนี้ มันไม่น่าจะมีอารมณ์สนทรีย์ใดๆ เลยด้วยซ้ำ เลยรู้สึกว่าบุคลิกมันมีอะไรแปลกๆ ขัดๆ อยู่ แต่ก็ดีมากแหละที่ เมิ่งอวิ๋นโดนฆ่าไปตั้งแต่ก่อนเริ่มเรื่อง ฮาๆ นี่คือนิยายสืบสวนฆาตกรรมนะ ดังนั้น จะมามีเลิฟไลน์ไม่ได้ !!
โดยรวมยังอ่านสนุก ตามลุ้นกันต่อไป -
เล่มนี้รู้สึกเขียนยืดเยื้อไปหน่อย บทบรรยายปูมหลังเยอะ
ตัวละครประกอบเยอะ
ความลับเยอะไปหมด เบื้องหลังเบื้องลึกมากมายที่ต้องค้นหา
เล่มแรกคนตายเกลื่อนจนหมดโควต้ารึยังไง เล่มนี้ไม่มีคนตายเลย
มีแต่บทฝั่งตำรวจแพ้ มันก็แอบน่าเบื่อ ไม่น่าลุ้น
ไม่เห็นทางจะชนะได้
มันน่าจะสูสี ชนะมั่ง แพ้มั่ง อาจจะดีกว่า
แอบเบื่อการบรรยายถึงความคิดพระเอกในบางครั้ง
หมาป่าเดียวดายผู้ฝังใจกับรักเก่า
รู้สึกเหมือนพยายามยัดเยียดบทโรแมนติกมาให้ แต่มันดูประดักประเดิดไปนิดกับโทนของเรื่อง
ตัวร้ายที่เทพมากๆ เริ่มไม่ค่อยเทพ เห็นแก่ความรัก (อีกละ)
ชอบแบบนิยายฝรั่งที่ตัวร้าย psychopath & sociopath ชัดๆ ไม่รู้จักรักใคร ไม่เวิ่นเว้อ ชั้นอยากจะฆ่าคน จบ
เหมือนพยายามทำปมใหญ่ เบื้องหลังลึกลับกว่าแค่คดีเดิม
ซึ่งไม่รู้มันจะใหญ่ไป จนสุดท้ายเรื่องออกทะเลหรือเปล่า ต้องรออ่านต่อไป
แอบเดาประวัติสาวน้อยคนใหม่ไว้ในใจ รออ่านต่อ
สงสัยว่าทำไมมันต้องยาวถึง 5 เล่ม เพราะบรรยายเยอะแบบนี้น่ะเหรอ
เล่มนี้คิดว่าตัดไปเลยก็น่าจะได้ -
เล่มนี้ไม่สนุกเท่าเล่ม 1
ความสนุกของเล่ม 1 เราให้ไป 100 เต็มเลย
ส่วนเล่มนี้เอาไป 50 พอ
ดูเหมือนแย่นะ แต่จริงๆมันไม่ได้แย่
เพราะเราเข้าใจได้ว่าทำไมเล่มนี้มันถึงไม่สนุกเหมือนเล่มแรก
ภายใต้ความสนุกที่ลดลง
ตัวเนื้อเรื่องจะโฟกัสไปที่ยูเมนิดิสคนที่ 2
ที่มาที่ไป เหตุผลที่กลายมาเป็นยูเมนิดิส
มีฉากความฉลาดและความเจ้าเล่ของยูเมนิดิสคนใหม่อยู่บ้าง
แต่เหมือนยังมาไม่สุด
เอาง่ายๆคือเล่มนี้เหมือนปฐมบทของยูเมนิดิสคนที่ 2 อะ
ความสนุกมันเลยไม่เท่าเล่มแรกที่ยูเมนิดิสคนแรกได้ปล่อยของเต็มที่
ความฉลาดเฉลียว ความเก่ง ความเลว ความฆาตกรมันฉายออกมาได้เต็มที่
ส่วนตัวคิดว่าหลังจากเล่มนี้
พออะไรเริ่มเข้าที่เข้าทาง
น่าจะถึงเวลาที่ยูเมนิดิสคนที่ 2 จะได้ปล่อยของมากขึ้น
น่าจะสนุกมากขึ้น -
เล่มนี้ก็จะแผ่วจากเล่มก่อนนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ ภาพรวมคือการเล่าถึงตัวตนของ Eumenides รุ่น2 ปริศนาของคดีอื่นๆที่พัวพันและบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้องในอดีต การปรากฎตัวของสาวนักไวโอลินตาบอดที่เราเดาได้รางๆว่าเธอเกี่ยวข้องกับคนเล่มแรกยังไง และคิดว่าน่าจะมีความสำคัญในเล่มต่อๆไปด้วย ตอนที่ลุ้นตามในเล่มคือ การไล่ตามหาที่Eumenides ออนแอร์คุยผ่านเนท และการไล่ล่าที่สถานีรถไฟ
-
เล่มสองทำให้เรารู้จักตัวละครมากขึ้น แต่ก็ทำให้เนื้อเรื่องดำเนินช้าลง เพิ้อปูประเด็นใหม่ๆ ดูจากการอ่านจบ เล่มสองและเล่มสามคงถูกกำหนดมาให้ต่อเนื่องกันดังนั้นเนื้อเรื่องจึงดำเนินไปได้ขึ้นเดียวของ arc นี้ ต้องติดตามต่อไปในเล่มที่สาม
-
เล่มสองเป็นการทิ้งปมเอาไว้รอเฉลยแล้วก็จากไป เล่มนี้ทำให้เราได้รู้ถึงอดีตของยูเมนิดิส นอกจากตัวคดีใหญ่แล้วยังมีคดีย่อยๆอีกหลายคดีที่ยังรอคำตอบอยู่ รวมถึงมีคำโกหกในอดีตที่ทั้งฝ่ายตำรวจและคนร้ายต่างพยายามค้นหาความจริง
-
ปกติเราเป็นคนที่อ่านหนังสือแล้วจำรายละเอียดได้ค่อนข้างดี มีเรื่องนี้นี่แหละที่อ่านเหมือนเอาสนุกอย่างเดียว จำอะไรแทบไม่ได้เลย เหมือนดูหนังแอคชั่นแก้เซ็ง 555555 เป็นสี่ดาวที่เน้นเอนเตอร์เทนเมนเป็นหลัก คิดว่าคงหยุดซีรีส์นี้ไว้ก่อนที่เล่มสองนะคะ
-
Very complicated and still gripping.
-
**4.5
จริงๆโดยรวมเล่มนี้ก็ดีนะ แต่เล่มแรกคือดีมากกกกๆๆเกินไปไง เลยรู้สึกทั้งแง่ความเร็วในการเดินเรื่อง ความหักมุม อุบายใดๆ ดรอปลงกว่าเล่มแรกมากเลย แต่ก็โอเค อ่านต่อเล่ม3 😅😅 -
สมกับเป็นนิยายสืบสวนสอบสวนฝั่งตะวันออกจริงๆ การสลับฉากไปมาค่อยๆเปิดเผยรายละเอียดเบื้องหลังตัวละครไปเรื่อยๆ เล่มนี้หนากว่าเล่มหนึ่งแต่อ่านง่ายกว่ามาก แนะนำให้อ่านทั้งชุดครับ
-
สนุก แต่ไม่ระทึกเหมือนเล่มแรก ไม่ค่อยaction
-
หลังจากอ่านเล่ม 1 จบ เล่มสองเริ่มเนือยๆ เดาทางออก
-
เล่มนี้ไม่ลุ้นระทึกเท่าเล่มแรก แต่ก็ชอบอยู่ดี
-
รีวิวรวมๆไว้ที่เล่ม 5 เล่มจบจ้า
-
“ฉันรู้แล้วว่ายูเมนิดิสอยู่ที่ไหน”
“อยู่ที่ไหน”
“อยู่ในใจคุณไงคะ”
“กฎหมายไม่สามารถลงโทษเอาผิดผมได้ ขณะเดียวกันกฎหมายก็ไม่อนุญาตให้ฆาตกรเข้าไปเหยียบย่ำชีวิตของคนอื่น ส่วนคุณคือผู้บังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นคุณต้องคุ้มครองผม ไม่ว่าในใจจะรังเกียจผมมากแค่ไหน”
พูดถึงแต่ละฉากและความรู้สึกหลังอ่านจบ
- ชอบพาร์ทอดีตของหยวนจื้อปังกับหลัวเฟย เหมือนหยวนจื้อปังตระหนักได้ตั้งนานแล้วว่ากฎหมายไม่สามารถลงทัณฑ์ความชั่วร้ายได้ทั้งหมด บางครั้งก็ยังไปเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับความชั่วร้ายอีก เขามีชนวนขบถรู้แล้วว่าเส้นทางที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ดูจะไม่ใช่เส้นทางที่เขานับถือ ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักตัวละครนี้ ดูเข้าใจชีวิตจริง ๆ อยากรู้ต่อไปเรื่อย ๆ เลยว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง น่าเสียดายที่เขาตายไปก่อนแล้ว อยากเห็นคู่นี้แข่งกันมากกว่า ดูเป็นคนที่เหมือนเงาสะท้อนของกันและกันมากกว่าหลัวเฟยกับเหวินเฉิงอวี่
- หานเฮ่ากับการลาครอบครัวของเขา ตงตงบอกว่าพ่อกำลังไปจับคนเลวมาก ๆๆๆๆ ตอนนั้นคือน้ำตาคลอเลย บทมันแค่นี้ แต่ทำไมมันลึกซึ้งขนาดนี้กัน
จริง ๆ เล่มนี้มันหนังดราม่าดี ๆ นี่เอง เขียนมุมมองแบบเข้าไปนั่งในใจของตัวละคร ว่าแต่ทำไมเขาใช้คนแปลคนละคนเนี่ย