Title | : | มาตานุสติ |
Author | : | |
Rating | : | |
ISBN | : | 9749748255 |
Language | : | Thai |
Format Type | : | Paperback |
Number of Pages | : | 224 |
Publication | : | Expected publication January 1, 2549 |
แดนอรัญ แสงทอง พาเราท่องไปในโลกสีดำ ว่าด้วยภาวะคลอนแคลน ไร้เสถียรภาพทางจิตใจของเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่มิอาจพึ่งพาผู้ใดได้เลย เว้นเสียแต่คำสอนของผู้เป็นมารดาเท่านั้น
‘มาตานุสติ’ ไม่ใช่
มาตานุสติ Reviews
-
แนะนำ แนะนำ
นิยามของคำว่าวางไม่ลงที่แท้ทรูเลยครับ
ประหวั่น พรั่นพรึง ตราตรึง
ครบกระบวนท่า มีทั้งความดาร์คสะใจ การแก้แค้นที่ สาสม และ ความขนลุกเกรียว ในความเลือดสาด และ บรรยากาศ ที่น่าขนลุก การสู้ชีวิตของคนที่เกิดมาลำบาก การต่อสู้กับขยะสังคมเล่มนี้ให้รสชาติ ครบ อ่านจบแล้วอิ่มมากสำหรับผม
.
.
เล่มที่ 49/2021 (159)
ผู้เขียน: แดนอรัญ แสงทอง
สำนักพิมพ์: สามัญชน
จำนวนหน้า: 224 หน้า ปกอ่อน
พิมพ์ครั้งที่ 2 — มีนาคม 2558
.
.
สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุดสำหรับเล่มนี้คือ แม้ว่าตัวเอกของเราจะแกร่งแค่ไหน ห้าวหาญแค่ไหน แต่ไฉนกลับไม่มีความสุขเอาเสียเลย
.
เรื่องนี้เอาผมอยู่จริงๆ ครับ
.
โดยรวมหนังสือเล่าแค่ชีวิต แม่ลูกเดี่ยว (ลูกสาว)ฐานะยากจนคู่หนึ่ง เท่านั้นเอง แต่มันทำให้เรารู้สึกได้หลากหลายเหลือเกิน ทั้งบันเทิง หดหู่ ซาบซึ้ง
.
.
การเล่าเรื่องสุดยอดจริงครับ
.
ความเห็น
- ช่วงท้าย นึกว่า stephen คิงมาเองจริงๆ ครับ 55
.
10/10 -
ชอบค่ะ เล่มนี้ สำนวนไม่ต้องเวอร์วังอลังการมาก แพร้วพร้อยพริ้งพรายจนงง แต่อ่านได้ไหลลื่น ที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือการตีแผ่ชีวิตคนจนในประเทศไทย และระบบยุติธรรมของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน และกระแทกใจ นอกจากนี้แล้วยังมีการจิกกัดวิิถีชนบทแบบไทยๆ ได้อย่างน่าขัน ทั้งการกระจายเสียงจากหอกระจายข่าวที่รบกวนความสุขในชีวิต กลุ่มแก๊งค์อันธพาลที่พูดจาแทะโลมผู้หญิงทุกคนที่เดินผ่าน ทั้งความยากจน การต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ สภาพแวดล้อมรอบด้านที่แย่จนเหลือจะกล่าว หรือแม้แต่จุดที่ทำให้ชีวิตสองแม่ลูกพลิกผันมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างแทบทั้งสิ้น รันทด ระทึก และหดหู่ ตอนจบชวนอึ้งและชวนให้จุกๆ ในลำคอ ที่ชอบคือฉากหลังเป็นสถานที่ ถนนต่างๆ ในจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดที่เราอาศัยอยู่ ทำให้มีอารมณ์ร่วมและมีอรรถรสมาก (อยากบอกว่าซอยที่มีแต่โสเภณีอาศัยอยู่นี้มีจริงๆ ค่ะ แต่ไม่รู้ปัจจุบันยังมีอยู่ไหมนะ )
-
เป็นรายงานสภาพทางภูมิศาสตร์ ของอเวจีขุมต่างๆ เเละสภาพจิตใจของผู้ที่อยู่ในขุมอเวจีนั้นจริงๆ เป็นเรื่องราวที่เริ่มจากจุดเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย เเล้วจึงค่อยๆflash back เรื่องราวไปในเเง่มุมต่างๆที่ตัวละครเเม่ลูกต้องเผชิญ ส่วนท้ายๆเรื่องทำให้เราเอาใจช่วยเเละต้องติดตามเรื่องราวไปให้ถึงจุดจบเเต่ตอนจบซึ่งเฉลยต่อท้ายอันนั้นส่วนตัวคิดว่าอาจจะไม่ต้องพูดถึงโดยตรงขนาดนั้นจะทำให้หนังสือเป็นที่น่าจดจำมากกว่าเเต่การเขียนภาษาก็คือสุดยอด
มากๆจริง -
วางไม่ลง
-
อ่านแล้วต้องอุทานในใจตลอดเวลา บ้าไปแล้ว เขียนหนังสือแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย
สยองขวัญสั่นประสาท แต่วางไม่ลงเลย เรื่องราวของแม่ลูกคู่หนึ่งที่ต้องย้ายถิ่นฐานอยู่บ่อย ๆ ในเรื่องเป็นเพียงเหตุการณ์สั้น ๆ ในคืนหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่หนังสือเล่าผ่านห้วงคำนึงถึงเหตุการณ์ในอดีตของตัวลูกสาวจนถึงเวลาปัจจุบัน ถึงหนังสือน่าจะเน้นไปที่ความสยองขวัญเป็นหลัก แต่ในแง่ของการเล่าเรื่องชีวิตของชนชั้นล่างก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เป็นงานเขียนชั้นยอดชิ้นหนึ่งที่ควรได้รับการพูดถึงมากกว่านี้
'แม่พยายามสุดความสามารถของแม่เสมอที่จะทำให้เธอได้เติบโตและมีชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม่ช่างเป็นแม่ที่ทะเยอทะยานอะไรเช่นนั้น แต่มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ฝัน และมนุษย์ที่กล้าหาญก็จะลงมือไขว่คว้าความฝันของตน' -
เรื่องนี้แปลกมากๆ เราสามารถเล่าเรื่องย่อโดยใช้พื้นที่แค่สามบรรทัด แต่เป็นหนังสือที่เล่นกับความรู้สึกได้สุด ขนาดเราอ่านนานแล้ว ยังจำความรู้สึกนั้นได้ชัดเจนอยู่เลย เป็นหนังสือที่ทำให้เราหายใจไม่ทั่วท้อง ลุ้นอยู่ตลอดเวลา อึดอัด ถึงขนาดพลิกไปดูอยู่เรื่อยๆว่าเหลืออีกกี่หน้า ใกล้จบหรือยัง อยากรู้ว่าตอนสุดท้ายแม่จะกลับมาไหม เรื่องเริ่มต้นเมื่อมีเสียงดังอยู่นอกบ้านกลางดึกแล้วแม่ต้องออกไปดู ทิ้งให้เด็กหญิงอยู่คนเดียวในห้องนอนมืดๆ เรื่องตัดฉากสลับเหตุการณ์ปัจจุบันกับห้วงมโนนึกของเด็กหญิงที่ลอยล่องออกไปไกลด้วยความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นระหว่างรอแม่กลับมา บ้างก็นึกจินตนาการว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก บ้างก็หลบลี้ความพรั่นพรึงจากการจินตนาการถึงเหตุการณ์ด้านนอกด้วยการนึกย้อนไปถึงอดีตแทน ระหว่างนั้นเราก็ได้รับรู้ถึงเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชีวิตแร้นแค้น เป็นหนังสือที่ตีแผ่สภาพชีวิตคนชนชั้นรากหญ้า ความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็เป็นนิยายที่ค่อนข้างหลอนสั่นประสาทอยู่พอประมาณ
-
ให้ภาพของความอึมครึม หดหู่ เศร้าหมอง และสยองขวัญ แห่งสภาพสังคมและสภาวะของจิตใจอันเพริดกระเจิงไว้อย่างแจ่มชัด ตั้งแต่ต้นจนจบ
.
ถ้านี่เป็นหนัง มันก็คือ Drama / Horror / Thriller ชั้นยอดแต่กลับเป็นที่รู้จักและได้รับการกล่าวขวัญถึงน้อยกว่าที่มันควรจะได้รับ...น้อยกว่าที่มันควรได้รับไปมากๆ -
โดน มาตานุสติ ของแดนอรัญ แสงทอง กระหน่ำหวดอย่างบ้าคลั่งในสามหน้าสุดท้าย อ่านไปก็ลืมหายใจ อ่านไปก็อึดอัดไป เฮ้อ... เรื่องนี้เขียนดีมาก
-
“แม่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” น.201
“แม่ ช่างเป็นแม่ที่ทะเยอทะยานอะไรเช่นนั้น แต่มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ฝัน และมนุษย์ที่กล้าหาญก็จะลงมือไขว่คว้าความฝันของตน” น.114
“มาตานุสติ” ของ แดนอรัญ แสงทอง
{รายงานสภาพทางภูมิศาสตร์ของอเวจีขุมต่าง ๆ แห่งโลกยุคใหม่ และสภาพทางจิตใจของผู้ที่อยู่ในขุมอเวจีเหล่านั้น}
“บ้านของใครหนอใครก็รักเรือนเขา บ้านของเราหนอเราก็เฝ้ารักปอง...” น.143
ยังคงตึดตรึงอยู่ในความทรงจำ ระหว่างการอ่านนั้นแทบหายใจหายคอไม่ทัน ตะลึงพรึงเพริด ประหวั่นพรั่นพรึง ท้อแท้ สิ้นหวัง หดหู่ หวาดกลัว สยดสยอง มีความหวัง แอบยิ้มและขำเล็ก ๆ บ้างบางขณะ ลุ้นระทึกไปกับการต่อสู้ของชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า มืด สว่าง ฯลฯ ดำดิ่งลงไปในชะตากรรมของสองแม่ลูกผู้หาเช้ากินค่ำ ผู้ระเหเร่ร่อน แทบทุกอารมณ์ความรู้สึกประดามีพรั่งพรูตั้งแต่เปิดหน้าแรกไปจนหน้าท้ายสุด แม้ว่าในช่วงแรก ๆ อาจจะทำให้เชื่อได้ยากว่า แม่ ด้วยวัยเพียงเท่านั้นจะสมบุกสมบันได้เพียงนี้เชียวหรือ อะไร ? ที่ทำให้แม่ต้องสุด ๆ กับชีวิตขนาดนี้กับการจะผลัก ขยับชีวิตของตนเองและลูกให้ดีขึ้นและทัดเทียมอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็น “คน” ในท่ามกลางของอีกหลากหลายชีวิต หรือว่าโลกในความจริงนั้นโหดร้ายยิ่งกว่า มืดดำยิ่งกว่านี้หรือ?
“แม้ว่าเธอและแม่จะเป็นคนยากไร้อนาถา เป็นประชาชนในระดับรากหญ้า เป็นไพร่ เมื่อพิจารณาจากสถานภาพทางสังคม เป็นวัชพืชอันดื้อด้านและทุเรศทุรังของโลกยุคใหม่ เป็นคนประเภทที่ถ้าหากบุญพาวาสนาส่งให้ได้มีโอกาสเสนอหน้าค่าตาต่อสาธารณชน ก็เป็นไปได้อย่างดีที่สุดก็เพียงเด็กหญิงคนใช้หรือนางคนใช้ในละครโทรทัศน์ซึ่งเป็นความบันเทิงอันตื้นเขินและโง่เง่า เป็นทาส แม้ระบบทาสจะถูกล้มเลิกไปนานนมกาเลแล้ว” น.9 เปิดฉาก
“เห่เอ๋ยนาฬิเกต้นดก ปลูกไว้แถมพก หนุ่มน้อยจะมีเมีย แค้นใจอ้ายกระรอกมันมาเด็ดดอกกินเสีย อ้ายหนุ่มก็ชวดมีเมียว่าจะบวชไปจนตาย” น.109
สู้กันต่อไป ชะตากรรมของใครก็ของคนนั้น
อ่านหมายเลข 13 ลองหาอ่านดูครับ :) #มาตานุสติ #แดนอรัญแสงทอง แดนอรัญ แสงทอง #ณอ่านTheReaderTheKlinLibrary ณ อ่าน The Reader- The Klin Library -
สุด!
-
สำนวน ภาษาการเล่าเรื่องและบรรยากาศของแดนอรัญ แสงทองนั้นยอดเยี่ยมมีพลัง และยิ่งแจ่มชัดยิ่งขึ้นในวรรณกรรมเรื่องนี้